18/10/50

ป่าไม้เมืองไทย..

แล้ววันนั้นก็มาถึงอยากส่งถึงทุกท่านในประเทศไทยจัง!!!
.. บางท่านอาจแปลกใจที่ทำไมธรรมชาติจึงได้โหดร้ายรุนแรงขึ้นทุกวันแต่สำหรับฉันแล้ว..
ไม่แปลกใจเลยสักนิดทำไมน่ะหรือ.. เพราะเห็นตำตาอยู่ทุกวี่วันแถมขยายวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็ว.. ..ภาพแรกผืนพรมสีเขียว..ป่าอันอุดมสมบูรณ์ของลุ่มน้ำสาละวิน..
ที่มันยังคงเขียวอยู่ได้เพราะอยู่ห่างไกลผู้คน..
แถมดินแดนแถบนี้ยังมีการรบของชนกลุ่มน้อยอยู่ตลอดเวลา..
มีแต่ทหารเท่านั้นถึงจะกล้ามายังดินแดนแถบนี้.. .. เมื่อมีความเจริญ..มีการพัฒนา
(ในภาษาของธรรมชาติการพัฒนาของมนุษย์คือ..การทำลายล้างธรรมชาติ)
มีถนนลากยาวไปถึงไหนก็บรรลัยวายวอดที่นั่น..ป่าเริ่มถูกเปิดบริสุทธิ์..จุดเริ่มต้นของหายนะ.. ..
ท่านอาจไม่เชื่อว่ามนุษย์มีพรสวรรค์ในทางทำลายล้างอย่างหาสัตว์พันธ์ไหนมาทาบรัศมีได้ยาก
ภูเขาบางลูกมีอายุยืนยาวมานับร้อยนับพันปีแต่มนุษย์เพียงคนเดียวสามารถถากถางป่าจนเหี้ยนได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นจุดสีขาวๆ เล็ก ๆ อยู่ 2-3 จุดด้านบนขวามือนั่นเป็นกระท่อมหลังน้อยที่ผู้บุกรุกอาศัยอยู่..คนไม่น่าจะเกิน 5 คนแต่สามารถ่ทำลายป่าจนภูเขาหมดเป็นลูกๆ น่าชื่นชมซะไม่มี
เมื่อมีผู้ว่าราชการมารับตำแหน่งใหม่ๆ ท่านได้ขอ ฮ.ทบ.เพื่อบินสำรวจอาณาเขตป่าที่ท่านต้องรับผิดชอบก่อนขึ้นเครื่องท่านได้พูดถึงนโยบายที่วาดไว้สวยหรูเรื่องการอนุรักษ์ป่า จนฉันฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก แถมยังแอบอมยิ้ม..
ท่านบอกว่ากับพวกฉันว่า"ถ้าระหว่างบินไปทำงานแล้วพบเจอว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าให้แจ้งท่านเป็นการส่วนตัวได้ตลอดเวลา" ..ยิ่งบินลึกเข้าไปในป่า.เสียงของท่านผู้ว่า ฯ ก็เบาลงเรื่อยๆบางช่วงก็ถึงกับเงียบจนฉันต้องหันไปมองดูว่าท่านยังสบายดีอยู่หรือเปล่า
ฉันกลัวว่าท่านจะช็อกกับภาพที่เห็นกระจะตาอยุ่เบื้องล่างและเป็นการได้เห็นด้วยตาของตนเองต่างจากรายงานบนแผ่นกระดาษอย่างสิ้นเชิง ภูเขาหมดเป็นลูกๆ แบบนี้บ้านฉันเรียกว่า "วายวอด" ไม่ใช่การบุกรุกป่าแต่เป็นการทำลายล้างป่าต้นน้ำของประเทศไทยให้สูญพันธ์ไปอย่างรวดเร็วที่สุด ท่านผู้ว่าฯ ของฉันไม่ได้ถึงกับเงียบจนเกินไปนักเพราะบางช่วงแม้เสียงใบพัด ฮ.จะดังสนั่นหวั่นไหวหูฉันอาจฝาดไปก็ได้..เพราะฉันคิดว่าฉันได้ยินเสียงท่านผู้ว่าฯ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าอุดมการณ์อันแรงกล้าของท่านที่จะยืนหยัดรักษาป่าต้นน้ำไว้ให้ลูกหลานคนไทย จะยังคงเหนียวแน่นมั่นคงอยู่หรือเปล่า..ในยามที่ได้มาเห็นความจริงต่อหน้าต่อตาแบบนี้..
ไม้มีค่าจำพวก "ต้นสักทอง" จะถูกตัดโค่นและขนลำเลียงออกมาก่อนส่วนที่เหลือก็ไม่มีความหมายอันใด จัดการฌาปนกิจป่าทั้งป่าให้ไปสู่ที่ชอบที่ชอบ ยามเมื่อคนตัดไม้เหน็ดเหนื่อยยังมีเวลาได้พัก ตกกลางคืนก็มีเวลาได้นอนหลับพักผ่อนมีเวลาให้ป่าได้พักจากการถูกทำลายแต่การทำลายป่าด้วยวิธีการเผา ไฟป่าจะโหมไหม้ตลอด 24 ชม.
ไม่มีเวลาได้หยุดพักไฟจะลามต่อเนื่องกินพื้นที่นับร้อยนับพันไร่เพียงข้ามคืน ท่านลองดูด้วยตาจะเห็นว่าควันไฟจากการเผาทำลายป่ามันสามารถทำให้ป่าทั้งป่ามืดคลึ้มท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้ากลับกลายเป็นสีเทาผมไม่ได้หมายถึงป่าจำนวน 10 หรือ 100 ไร่แต่มันหมายถึงป่าที่ฉันมองไปจนสุดสายตาแต่ไม่เห็นอะไรเลย..นอกจากควันไฟ.. ..
แล้วเมืองก็ผุดขึ้นกลางป่า..กลางหุบเขา..รีสอรท์เอย..โรงแรมเอย..ไหนจะสนามกอล์ฟไร่ส้ม..พืชผักปลอดสารพิษ.ภาพนี้ถ่ายจากอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่.. ..รีสอร์ทกลางหุบเขาของใครเอ่ยยย ขอเชิญท่านมาเป็นแขกของเราบรรยากาศท่ามกลางขุนเขา..อากาศบริสุทธิ์..และถ้าท่านใดเคยเป็นลูกค้ารีสอร์ทประเภทนี้
ขอยินดีกับท่านด้วยที่ท่านเป็นหนึ่งในผู้เห็นดีเห็นงามกับการทำลายป่าเงินของท่านจะได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนในการทำลายป่าขยายกิจการของรีสอร์ทออกไปให้เจริญรุดหน้ายามที่ท่านตื่นขึ้นยาม เช้า..เดินไปออกไปชื่นชมธรรมชาติที่ระเบียงห้องพักของรีสอร์ท พร้อมกับสูดลมหายใจอันแสนบริสุทธิ์ของป่าเข้าไปเต็มปอดและรำพึงรำพันออกมาด้วยความสุขขอให้ท่านรับรู้ว่า..ป่ากำลังร้องไห้.
ความสุขของท่านยืนอยู่บนซากศพของต้นไม้นับร้อยนับพัน ลองนึกภาพดูว่าในร่องเขาแบบนี้..
ถ้าฝนตกลงมากระแสน้ำจากบนภูเขาจะไหลไปทางไหน..เป้าหมายของมันก็คือหมู่บ้านเชิงเขา
และเราก็จะได้เห็นภาพของการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้อ่านข่าวทั้งจากหนังสือพิมพ์และนั่งดูข่าวผ่านทีวีทุกช่องด้วยความตกอกตกใจว่ามันเป็นไปได้อย่างไร
ทำไมธรรมชาติช่างโหดร้ายกับมนุษย์ผู้ใสซื่อตัวเล็กๆคนตายก็ตายไป
พวกที่อยู่ก็ยังคงถากถางทำลายป่าแลกเงินกันต่อไปหามีจิตสำนึกไม่บทเรียนกี่ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยให้เราฉลาดขึ้นเลยสักนิดธรรมชาติปรับตัวเป็นเรื่องปกติ แต่มนุษย์เองมิใช่หรือที่นำพาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่ๆ ไม่ควรอยู่ เหมือนไปนอนอยู่กลางถนนท่ามกลางอันตรายจากรถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมายามเมื่อมีการตายการสูญเสียเราจะโทษป่า โทษภัยธรรมชาติว่าโหดร้ายได้อย่างไรสองมือยังถากถางทำลายป่ากันไม่หยุด แต่ปากก็ร้องถามว่า ทำไมธรรมชาติจึงโหดร้ายนัก มันช่างไม่ยุติธรรมกับมนุษย์ตัวเล็กๆ เลยทำไมไม่ต่างคนต่างอยู่ ธรรมชาติมายุ่งกับมนุษย์ทำไม.
เฮ้อออออ...มนุษย์หนอมนุษย์..!!!
เมื่อฝนเริ่มตก..ด้วยความลาดชันของภูเขาดินที่ปราศจากการยึดด้วยรากของต้นไม้
เมื่อปริมาณน้ำยิ่งมากขึ้นดินก็ยิ่งมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นทุกทีจากการอมน้ำไว้ด้วยปริมาณมาก
แล้วมันก็จะพังทลายลงมา..ไหลลงไปรวมกันในร่องเขาพัดกวาดท่อนซุงที่มนุษย์ทิ้งไว้บนเขาลงมาด้วยยิ่งภูเขาสูงชันเท่าไร กระแสน้ำที่ไหลลงมาจะมีความเร็วและรุนแรงบ้าคลั่งพัดกวาดต้นไม้ชนิดถอนรากถอนโคน จุดหมายของพวกมันคือ หมู่บ้านและเมืองเบื้องล่าง หมู่บ้านในหุบเขา..
ตามเชิงเขาจะโดนถล่มก่อนเป็นการปลดปล่อยพลังครั้งแรกของมันในภาพไม่ใช่กองไม้จิ้มฟัน แต่เป็นซุงขนาดต่างๆ ไหลลงมาจากภูเขาเข้าถล่มหมู่บ้าน ขอย้ำว่า..มันคือท่อนซุงค่ะท่าน ..
มองไปทางไหนไม่เห็นอะไรเลย..นอกจากท่องซุงและทะเลโคลน.. ..
บริเวณนี้เคยเป็นนาข้าวลุ่มแม่น้ำที่เขียวขจี..แต่ตอนนี้มีแต่โคลนหนาเป็นฟุต.. ..
ลงมาดูที่พื้นด้านล่าง.คราวนี้เชื่อหรือยังล่ะครับว่าที่มองเห็นทางอากาศเหมือนไม้จิ้มฟันมันเป็นท่อนซุงจริงๆ ..กองนี้แยกไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร.. ..เหลือเพียงเสาโด่เด่..
มันเคยเป็นอาคารเรียนมาก่อน จะมองเห็นซากของเสาธงที่เด็กๆ ใช้เคารพธงชาติยามเช้าด้านซ้ายมือ..

นายทุนรวยเอารวยเอา นอนสบายอยู่ในเมืองครับส่วนชาวบ้านเป็นเหยื่อรับจ้างตัดไม้ก็ถูกจับเวลาเกิดภัยจากธรรมชาติตัวชาวบ้านเองก็เป็นผู้รับเคราะห์ น่าสงสารที่สุดคือชาวบ้านตาดำๆ

ทำไปด้วยความไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะรุนแรงขนาดไหนเงินและทรัพย์สมบัติที่สร้างสมมาจากการรับจ้างตัดไม้ยามธรรมชาติมาทวงคืนต้องคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยคือชีวิตของตัวเองหรือไม่ก็เป็นคนในครอบครัวที่ตัวเองรัก ป่าปิดไปนานแล้วครับ แต่ประตูหลังไม่ได้ปิดแถมยังเปิดกว้างกว่าประตูหน้าซะอีกนับจากวันที่ประกาศปิดป่าต้นไม้ยังคงถูกลำเลียงออกจากป่าไม่มีวันหยุดก่อนปิดป่า ป่าจะถูกตัดทำลายอย่างถูกกฏหมายจากเจ้าของสัมปทานเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งเขาจะคอยสอดส่องไม่ให้ชาวบ้านเข้ามากอบโกยผลประโยชน์แข่งกับพวกเขาแต่พอปิดป่ายกเลิกทุกสัมปทานป่าก็กลายเป็นของสาธารณะพวกนายทุนเจ้าของสัมปทานเดิมก็แอบเข้าไปตัดชาวบ้านก็ร่วมสังฆกรรมด้วย ต่างคนต่างทำงานของตัวเองอย่างแข็งขัน ไม่มีใครว่าใคร..มือใครยาวสาวได้สาวเอา..สุดท้ ายก็..เละ ..
คนสมัยก่อนพึ่งพาอาศัยป่าด้วยความเคารพในฐานะที่ป่าคือชีวิตคือแหล่งอาหาร.คือแหล่งของสมุนไพรรักษาโรค คือที่อยู่อาศัย ทุกคนอยู่กันอย่างพอเพียงล่าสัตว์ได้ 1 ตัว ก็กลับบ้านกินหมดแล้วค่อยไปออกล่าหาเอาใหม่ ตัดไม้พอปลูกบ้านอาศัยก็เพียงพอแล้ว..ป่าก็สงบเรียบร้อย..แต่ปัจจุบันทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง..ทุกคนต่างแข่งขันกันสร้างฐานะไม่รู้จักพอ เพื่อสะสมเงินทองให้ได้มากที่สุดสุดท้ายทุกคนต้องมาร่วมกันชดใช้..เราต้องมาเผชิญกรรมร่วมกัน.. ไม่ว่าจะอยู่ในป่าหรือในเมืองความเดือดร้อนจากผลของการกระทำของคนเพียงหยิบมือได้ส่งผลมาถึงคนที่อยู่ในเมือง นับพัน..นับหมื่น..นับแสน..และนับล้าน..สะพานขาด..!!! .. ถนนพัง..!!!
ภาพชุดต่อไปเห้นชัดอย่างไม่น่าเชื่อ..แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าถ่ายภาพชุดนี้มาได้อย่างไรรีสอร์ทริมธารน้ำแสนสวย..เร่งปลูกสร้างเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึง.. Before..!!!

..After..!!! ..And After..!!! ..And ๆๆๆๆๆๆ After..!!! ..จะมีสักวันใหมหนอ..!!!

วันที่มนุษย์ได้คิด..ว่าเราเป็นเพียงเถ้าธุลีเมื่อเทียบกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
เรากล้าประกาศก้องว่าเราสามารถเอาชนะธรรมชาติได้แต่เพียงธรรมชาติขยับตัวเพียงเบาๆ พวกเราก็ตายเกลื่อนวิ่งหางจุกก้น เราจะรู้กันหรือเปล่า..ว่าคนโบราณไม่เคยคิดจะเอาชนะธรรมชาติคิดเพียงว่าจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างไรให้เป็นสุข บรรพบุรุษของเรามีพิธีสักการะแม่โพสพพิธีขอขมาต่อสายน้ำและเรียกสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตว่าแม่พระคงคา เรียกผืนแผ่นดินว่าแม่พระธรณี พวกเขาเคารพนบนอบต่อธรรมชาติและธรรมชาติก็หล่อเลี้ยง พวกเขาเป็นการตอบแทน..
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอย่างสงบสุข แต่ในวันนี้เราเนรคุณต่อธรรมชาติผู้มีพระคุณเราเหิมเกริมมองธรรมชาติเป็นบ่อเงินบ่อทองเพียงเพื่อตักตวงผลประโยชน์อย่างเห็นแก่ตัว ไม่มีการเคารพยำเกรงเหมือนบรรพบุรุษของเราเคยได้กระทำเมื่อลูกมันไม่รักดี..หยิ่งผยอง..ก็สมควรแล้วที่จะถูกท่านตบหน้าสั่งสอนฉาดใหญ่เพื่อให้ลูกๆ ได้สติแต่ลูกมันดื้อด้านไม่เคยจดจำ..บทเรียนที่ผ่านมาหลายต่อหลายครั้ง.. คราบน้ำตาที่ไหลอาบไปทั้งประเทศครั้งแล้วครั้งเล่าจากการสูญเสีย ไม่เคยสร้างบทเรียนใหม่ๆ ให้พวกเราได้รู้สำนึก..แต่พวกเรายังคงเดินย่ำอยู่บนหนทางเส้นเดิม..หนทางไปสู่หายนะที่ยิ่งใหญและรุนแรงกว่า.. ธรรมชาติทั่วโลกพร้อมใจกันเพิ่มดีกรีความรุนแรงมากขึ้นทุกที..
แต่เราก็ยังไม่เคยได้คิด..ยังคงมุ่งมั่นล้างผลาญทำลายธรรมชาติกันต่อไปด้วยอัตราการล้างผลาญที่มั่นคงสม่ำเสมอ..เราคงต้องโดนตบหน้ากันทุกปีและถูกตบถี่ขึ้นเรื่อยๆ เตรียมตัวเตรียมใจกันให้ดี..เราเตือนท่าน (เป็นครั้งที่ล้านเจ็ด) แล้ววว..!!!! .. ตอนยุค "ป่าสาละวิน" พวกผมบินผ่านและมองลงไปเห็นไม้นับพันท่อนผูกเป็นแพลอยอยู่เต็มแม่น้ำสาละวินก่อนที่มันจะกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศทุกวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นยามเกิดภัยพิบัติครั้งใดเราก็จะบริจาคเพียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ แต่ไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้าไปให้ความรู้ชาวบ้านอย่างจริงจังเลยว่าที่พวกเขาต้องเจอกับสภาพเช่นนี้เป็นเพราะเหตุใด..เมื่อเหตุการณ์ร้ายๆ ได้ผ่านพ้นไปมันก็จะกลับมาเป็นหมือนเดิม..เหมือนที่มันเคยเป็น..
เหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น กรรมมันมีช่วงเวลาให้ผลครับ..ใครทำก็ต้องรับเอาไปไม่มีทางปฏิเสธส่วนจะช้าหรือเร็วไม่มีใครกำหนดได้..ข้าราชการหลายคนต้องถูกจับเข้าคุก ถูกปลดจากตำแหน่งและยึดทรัพย์..ครอบครัวต้องทนได้รับความอับอาย และถูกประนามจากคนรอบข้าง นายทุนบางคนเป็นอำมพาตร่ำรวยเงินทองแต่ต้องทุกข์ทรมานเงินสกปรกที่เพียรหามาช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิดบางคนหันมาเล่นการเมืองก็ถูกฆ่าจากฝ่ายตรงข้าม บางคนแม้จะมีหน้ามีตายศตำแหน่งใหญ่โตแต่ก็ต้องอมทุกข์แทบกระอักออกมาเป็นเลือดยามเมื่อสิ้นอำนาจวาสนา บางคนอาจต้องเข้าคุกตอนแก่แล้วเราจะได้เห็นกันว่ากฏแห่งกรรมมันเที่ยงตรงและยุติธรรมเพียงใด ..บางทฤษฏีเชื่อว่าป่า..ธรรมชาติรวมทั้งโลก..
มันมีชีวิต..โลกตั้งอยู่ได้ด้วยความสมดุลย์ถ้ามีจุดใดจุดหนึ่งขาดความสมดุลย์ มันจะปรับตัวเองเพื่อคืนเข้าสู่ความสมดุลย์ของมัน.. ถ้าป่าถูกทำลายป่าก็จะปรับตัวเองคืนเข้าสู่ความสมดุลย์..ต้นไม้ต้นไหนตายก็จะมีต้นใหม่เกิดขึ้นมาทดแทน..แต่เมื่อมีมนุษย์ระบบฟื้นฟูตัวเองก็ไร้ผล..เพราะป่าไม่มีโอกาสได้โงหัวจากการถูกทำลาย แม้สักวันมนุษย์ไม่เปิดโอกาสให้ป่าได้ฟื้นฟูตัวเอง และป่ามันมีระบบป้องกันตัวเองที่จะกำจัดผู้รุกรานหรือผู้ที่ทำอันตรายกับมันและตอนนี้ศัตรูตัวฉกาจและเป็นภัยอันใหญ่หลวงสำหรับธรรมชาติก็คือมนุษย์ตัวจ้อยแต่ใหญ่โตด้วยด้วยความอวดดี..เราเหมือนเด็กอมมือที่ไร้เดียงสาหยิบระเบิดมาแกะเล่น โดยไม่ได้รู้ถึงอันตรายที่กำลังจะตามตอนนี้ธรรมชาติอาจกำลังคบคิดกันตอบโต้เล่นงานมนุษย์..เพื่อความอยู่รอดของธรรมชาติและโลก..ลองดูข่าวสารจากทั่วโลกจะเห็นว่าธรรมชาติดูจะโหดร้ายขึ้นทุกวัน..ทั้งแผ่นดินไหว..ภูเขาไฟระเบิด..น้ำท่วมโคลนถล่ม..
ยุโรปมีคนตายจากคลื่นความร้อนบางปีนับหมื่นคน..เขตร้อนบางแห่งมีหิมะตก..แผ่นดินไหวกับประเทศไทยดูจะกลายเป็นเรื่องตลกถ้าพูดคุยเรื่องนี้กันเมื่อประมาณ 20 ปีก่อนแต่ทุกวันนี้เราไม่ใช่ประเทศผู้โชคดีที่จะรอดจากเหตุแผ่นดินไหวแบบ 100%
เมื่อก่อนถ้าใครพูดว่าไทยเป็นประเทศที่เสี่ยงกับการเกิดคลื่นสึนามิคนพูดคงถูกหาว่าบ้า..
แต่วันนี้พวกเรานั่งฟังกันด้วยความหวาดกลัวและวิตก

ไม่มีความคิดเห็น: